top of page

จุดประหาร ณ ริมถนนสุขุมวิท

บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ณ เขาแขกสัตหีบ ริมถนนสุขุมวิท ขาเข้าสัตหีบ กม.ที่ 183 หมู่ที่ 6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม กำลังก่อสร้างปรับปรุง ขยายช่องจราจรเป็น 6 - 11 ช่องจราจร รวมระยะทางประมาณ 10 กม.

ศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง หรือ ศาลเจ้าพ่อแขก

ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะต้องตัดผ่าน ศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง หรือ ศาลเจ้าพ่อแขก หรือ จุดที่เคยใช้เป็นที่ประหารโดยวิธีการยิงเป้า นายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี ฆาตกรฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกันเมื่อในอดีต

นายสมศักดิ์ หรือ แขก ขวัญแก้ว

เรื่องราวที่เป็นตำนานได้เริ่มก่อเกิดขึ้น เมื่อวัน 26 พ.ย.2514 เวลา 01.00 น. นายสมศักดิ์ หรือ แขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี ได้ก่อคดีใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน ประจำสนามบินอู่ตะเภา บริเวณพื้นที่หมู่ 4 ต.พลูตาหลวง กระทั่ง วันที่ 1 ธ.ค.2514 จอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติ มีคำสั่งตามคำประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ให้ผู้บัญชาการสถานีทหารเรือสัตหีบ เป็นประธานทำการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า บริเวณเชิงเขาตะแบก ห่างจุดก่อเหตุเพียง 1.5 กม. ด้วยเพชฌฆาตสารวัตรทหารเรือ 5 นาย ระดมยิงกระสุนเข้าร่างรวม 25 นัด สิ้นใจทันทีในเวลา 14.18 น. นับเป็นการประหารยิงเป้าครั้งหนึ่งของไทยที่กระทำท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก

นายแขก ก้มลงกราบพระ ก่อนถูกนำตัวไปประหารชีวิต

สำหรับกรณี “นายแขก” ได้ถูกนำตัว สู่ลานประหารเชิงเขาตะแบกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2514 ตรงเนินเขาโค้ง ริม ถ.สุขุมวิท จุดใกล้เคียงกับที่เขาใช้อาวุธปืนฆ่าเหยื่อทหารนักบิน ก่อนวินาทีสังหาร “นายแขก” จะเกิดขึ้น ทหารจากกองทัพเรือได้นิมนต์พระ มาแสดงธรรมให้ผู้ต้องหาสดับเป็นวาระสุดท้าย จนเมื่อธรรมบทนั้นจบลงนายแขกจึงก้มกราบพระเหมือนสำนึกบาปที่ก่อขึ้น

นายมีศักดิ์ สวัสดิภูมิ วัย 60 ปี เล่าให้ฟังว่า ...หลังการยิงเป้าใหม่ๆ คนในชุมชน กับคนที่เดินทางผ่านถนนสายนี้ตอนค่ำๆ จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นชายชุดขาว ร่างสูงใหญ่ ปรากฏตัวให้เห็นตรงเชิงเขาที่เป็นจุดสังหารอยู่บ่อยๆ”

นายมีศักดิ์ฯ ยังบอกด้วยว่า มันเหมือนมีอาถรรพณ์ให้รถที่แล่นผ่านจุดนี้ มักจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตประจำทุกปี คนท้องถิ่นนี้จึงเห็นสมควรสร้างศาลขึ้นมาเป็นสื่อสัญญาณการแผ่ส่วนบุญกุศลอโหสิกรรมให้ โดยไม่คิดจองเวรจองกรรมกันอีกต่อไป

หลังสร้างศาลเป็น ศาลาเรือนไม้ 2 หลังเสร็จ ก็มีคนนำดอกไม้ธูปเทียนและสิ่งของสักการะมาไหว้บูชา ขอให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัยขณะเดินทางผ่าน รถราที่แล่นผ่านประจำส่วนใหญ่จะบีบแตรแสดงศรัทธา แล้วก็แคล้วคลาดปราศจากภยันตรายกันถ้วนทั่ว

กรมทางหลวงได้ทำการย้ายศาล และอัญเชิญขึ้นไปด้านบน

ล่าสุด ศาลดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่โครงการก่อสร้างทางหลวงสายนี้ ได้ทำพิธีจุดธูปบอกกล่าวในการขอย้ายศาล และอัญเชิญขึ้นไปข้างบนห่างจากจุดเดิมประมาณ 50 เมตร โดยไม่ทำการรื้อทิ้งและไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับตัวศาลเลย แค่ทำการยกขยับเข้าไปข้างในให้พ้นเส้นทางการขยายถนนที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งทางโครงการไม่อยากทำให้ชาวบ้านและคนในชุมชนในละแวกดังกล่าวไม่สบายใจ เกี่ยวกับการขยายถนนผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือแต่อย่างใด จึงได้ทำการขยับศาลขึ้นไปบนเชิงเขาแทน และอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจุดเดิมมากที่สุด.

พร้อมทั้งจัดทำลานให้สักการะบูชา


โพสต์ที่น่าสนใจ
bottom of page